อนาคตพลังงานของไต้หวัน: การเปลี่ยนแปลงจุดยืนด้านนิวเคลียร์ของประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ จุ

ประธานาธิบดีไล่ส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่อาจเกิดขึ้น เปิดประตูสู่พลังงานนิวเ
อนาคตพลังงานของไต้หวัน: การเปลี่ยนแปลงจุดยืนด้านนิวเคลียร์ของประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ จุ

ในการสัมภาษณ์ล่าสุดกับ "นิตยสาร Wealth" ประธานาธิบดี ไล่ ชิงเต๋อ ได้กล่าวถึงอนาคตด้านพลังงานของไต้หวัน โดยระบุว่ารัฐบาลไม่ได้ตัดโอกาสในการพิจารณาการผลิตพลังงาน "นิวเคลียร์ใหม่ขั้นสูง" ท่านเน้นย้ำว่าหากเทคโนโลยีพิสูจน์แล้วว่ามีความปลอดภัยมากขึ้น พร้อมทั้งลด "กากกัมมันตภาพรังสี" ลง ความยอมรับจากสาธารณชนก็น่าจะเพิ่มขึ้น คำแถลงการณ์นี้ถูกมองว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญใน "นโยบายพลังงาน" ของ "พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP)" ซึ่งจุดประกายให้เกิดการถกเถียงอย่างกว้างขวาง และมีการวิพากษ์วิจารณ์บางส่วนทางออนไลน์ในไต้หวัน

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้กระตุ้นให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์บางส่วนทางออนไลน์ ผู้ใช้บางคนในฟอรัมออนไลน์ PTT ได้แสดงความคิดเห็นว่าเป็น "ถ่านหินสะอาด 2.0" ซึ่งอ้างอิงถึงการถกเถียงด้านพลังงานครั้งก่อน นอกจากนี้ บางคนยังอ้างว่านี่เป็นการเริ่มต้นของ "มาตุภูมิที่ไม่ใช่นิวเคลียร์แห่งใหม่"

ไล่ ชิงเต๋อ: ไต้หวันขาดแคลนพลังงานสีเขียว แต่ไม่ได้กีดกันทางเลือกนิวเคลียร์ใหม่

ตามรายงานของ "Commercial Times" ประธานาธิบดีไล่ระบุว่ากำลังสำรองไฟฟ้าของไต้หวันจะเพียงพอจนถึงปี 2032 โดยคำนึงถึงความต้องการไฟฟ้าของ AI อย่างไรก็ตาม ความท้าทายหลักยังคงอยู่ที่ "การขาดแคลนพลังงานสีเขียว" เพื่อตอบสนองภาษีชายแดนคาร์บอนของสหภาพยุโรป (EU) และแรงกดดันด้านการส่งออก รัฐบาลจึงส่งเสริมแหล่งพลังงานสีเขียวที่หลากหลายอย่างแข็งขัน รวมถึงพลังงานความร้อนใต้พิภพ พลังงานน้ำขนาดเล็ก และไฮโดรเจน



Sponsor